top of page

Tense

เรื่องของ tense ฟังดูเหมือนยากเนาะ พูดเรื่องนี้กับเด็กๆก็กลัวกันเชียว แต่ที่จริงแล้วมันไม่ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ ให้เราคิดตามหลักความเป็นจริงว่า tense ก็คือเรื่องของเวลา (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายๆแบบ ไม่ว่าจะเกิดแบบธรรมดา กำลังเกิดขึ้น เกิดไปแล้วเพิ่งจบ เกิดไปแล้วยังไม่จบ เดี๋ยวเรามาดูเหตุการณ์ในแต่ละ tense กันค่ะ

PRESENT TENSES - ปัจจุบัน มีความเป็นกริยาช่องที่ 1 ในทุกๆ TENSE

Present Simple

S + V1(S,ES)

Present แปลว่าปัจจุบัน Simple แปลว่าธรรมดา Present Simple Tense ก็เลยเป็น tense ที่บ่งบอกถึงความเป็นปัจจุบัน ประจำ จริง ณ ปัจจุบัน เช่น 

  • He comes from Japan. - เขามาจากประเทศญี่ปุ่น ความหมายทางนัยก็คือเป็นคนญี่ปุ่น แต่เขาอาจจะอยู่ที่อื่นก็ได้แต่ความที่เขามาจากญี่ปุ่นนั้นเป็นจริงเสมอ

  • It is always hot in Thailand. - มันร้อนตลอดเลยเนี่ยในประเทศไทย 

  • I sometimes skip breakfast. - บางครั้งฉันก็ไม่กินอาหารเช้า บ่งบอกถึงการกระทำที่เป็นนิสัย เป็นประจำ มีตัวบอกความถี่

  • They don't have any children. - พวกเขาไม่มีลูก บ่งบอกถึงความจริง ณ ปัจจุบัน

Present Continuous

S + IS/AM/ARE + VING

Present แปลว่า ปัจจุบัน Continuous แปลว่าต่อเนื่อง Present Continuous Tense คือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ปัจจุบัน ให้เรานึกภาพการเปิดน้ำก็อกนะคะ จุดเริ่มต้นของการกระทำคือเปิดน้ำ น้ำก็ไหลเรื่อยๆ เหตุการณ์แบบนี้คือ continuous แล้วพอเราปิดน้ำปุ๊บการกระทำสิ้นสุดลง แล้วก็กลายเป็นอดีต 

Continuous Tenses จะให้กลิ่นอายของการเกิดขึ้นแบบชั่วคราวเท่านั้น ไม่เหมือน present simple ที่ถาวรมั่นคง แล้วมันก็มีกริยาพวก non-action verbs นะคะที่ไม่สามารถเป็น continuous tenses ได้ เพราะเราไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รับทราบถึงการกำลังทำกริยานั้นๆ เช่น love, like, understand, have (มี), hate, forget, remember, want เป็นต้น เราก็เลยไม่สามารถเติม -ing ให้กับกริยาพวกนี้ได้ มันก็จะกลายเป็น present simple ไปเลย

ตัวอย่างของ present continuous tense

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น 

  • She is playing tennis. - นางกำลังเล่นเทนนิส

  • ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำมาอย่างยาวนาน หรือเกิดขึ้นบ่อยจนเกินไป (รู้สึกในทางลบ) ​

  • She is always coming to class late. - เธอเข้าเรียนสายเป็นประจำเลย

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคตอันใกล้ 

  • We’re meeting Harry at 11 o’clock tomorrow. - เราจะไปเจอแฮรี่ตอน 11 โมงวันพรุ่งนี้

Present Perfect

S + HAVE/HAS + V3

Present แปลว่า ปัจจุบัน Prefect แปลว่าสมบูรณ์ เราก็เห็นภาพของเหตุการณ์ที่เกิดแบบมีช่วงเวลา เกิดจากอดีตมาถึงปัจจุบัน อาจจะเพิ่งจบ หรือยังไม่จบก็ได้ แต่ผลของการกระทำจะเป็นปัจจุบัน ณ จุดที่พูด 

ตัวอย่างการใช้ present perfect tense

  • ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงถึงปัจจุบัน

    • เราก็จะเห็นตัวบอกเวลาพวก since (ตั้งแต่), for (เป็นเวลา) เช่น

    • I have lived in Korat since 2008. - ฉันอยู่โคราชตั้งแต่ปี 2008.


  •  ใช้บอกว่าเคยหรือไม่เคยทำ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

    • adverbs คือ never, ever, once, twice​

    • I have never been to Japan. - ฉันไม่เคยไปญี่ปุ่น (ตั้งแต่เกิดจนมาถึงปัจจุบันที่แหละ ไม่เคยไปเลย)

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงแหม็บๆ กรุ่นๆ

    • adverbs คือ already (เพิ่งจะ), recently (เมื่อไม่นานมานี้), just (เรียบร้อยแล้ว), yet  (ยัง - มักใช้ในประโยคคำถามและปฏิเสธ)

    • I have just come back to China. - ฉันเพิ่งกลับมาจากประเทศจีน

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่จบไปแล้ว แต่ผู้พูดยังคงรู้สึกถึงผลของเหตุการณ์นั้นอยู่

    • He has finished that work. - เขาทำงานนั้นเสร็จแล้ว (เพิ่งทำเสร็จ ยังไม่ได้ส่ง)


  • ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และอาจเกิดขึ้นต่อเนื่อง

    • adverbs คือ today, this wekk, this month, this year 

    • I have seen this movie 3 times this week. - ฉันดูหนังเรื่องนี้มาสามครั้งแล้วสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะมีครั้งที่ 4 หรือ 5 ก็ได้​

Present Perfect Continuous

S + HAVE/HAS + BEEN + VING

มีทั้งความเป็น present (ปัจจุบัน) perfect (สมบูรณ์) และ continuous (ต่อเนื่อง) เหตุการณ์และตัวบอกเวลาที่เกิดขึ้นก็คล้ายๆกับ present perfect แต่มันจะต่างกันตรงการต่อเนื่องของการกระทำ เช่น

  • How long have you been waiting? คุณรอมานานแค่ไหนแล้ว

  • I have been reading this book for 2 hours. ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ (แบบต่อเนื่องไม่ทำอย่างอื่นเลย) มาสองชั่วโมงแล้ว

  • It has been raining since 7 o'clock. ฝนตก (อย่างต่อเนื่อง) มาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้ว

ลองพิจารณากริยาที่สามารถเติม -ing กับไม่สามารถเติม -ing ได้ในเหตุการณ์เดียวกันดูนะคะ​

  • The teacher has been teaching this class for an hour. (ครูสอนนักเรียนห้องนี้ (แบบต่อเนื่อง) มาหนึ่งชั่วโมงแล้ว)

  • The students haven't asked a question once. (นักเรียนยังไม่ได้ถามคำถามแม้แต่ครั้งเดียว)

  • เราจะเห็นว่าการสอน teach มันต่อเนื่องได้มันก็เลยเติม -ing แต่การถาม ask มันไม่สามารถอย่างต่อเนื่องได้ เพราะถามแล้วหยุดเป็นครั้งๆค่ะ

  • Our team has been playing for nearly half an hour, but they have already scored 3 goals. ทีมของพวกเราเพิ่งเล่นได้แค่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่พวกเขายิงได้สามประตูแล้ว

PAST TENSES - อดีต มีความเป็นกริยาช่องที่ 2 ในทุกๆ TENSE

Past Simple

S + V2

Past แปลว่า อดีต simple แปลว่าธรรมดา เหตุการณ์ past simple คือเหตุการณ์ที่จบไปแล้วธรรมดาๆ มีตัวบอกเวลาแน่นอนว่าจบแล้วนะ ไม่เกิดอีกแล้วนะ

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดแล้วและจบลงในอดีต 

    • I graduated in 2019. - ฉันเรียนจบเมื่อปี 2019

  • ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต แต่ปัจจุบันเลิกทำแล้ว

    • I always went to school late last year.  - ฉันไปโรงเรียนสายตลอดเลยเมื่อปีที่แล้ว

Past Simple กับ Present Perfect จะมีความใกล้เคียงกันมากในการใช้งานแล้วเราก็จะสับสนว่าเหตุการณ์ไหนใช้ past simple หรือ present perfect กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลง 

เหตุการณ์เดียวกันเลยนะคะสามารถใช้ได้ทั้งสอง tenses ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเน้นอะไร

  • ถ้าเราต้องการเน้นผลของการกระทำให้เราใช้ present perfect เช่น

    • I've eaten breakfast. - ฉันกินข้าวเช้าแล้ว (ยังอิ่มๆอยู่เลย)​

  • ถ้าเราต้องการเน้นเวลาให้ใช้ past simple เช่น

    • I ate breakfast this morning. เมื่อเช้าฉันกินข้าวเช้า​

  • ระวังเมื่อเราใช้ past simple แล้วถ้าหากเราไม่ใส่ตัวบอกเวลาให้เห็นเราจะถือว่าเหตุการณ์นั้นจบแล้ว เช่น

    • My uncle went to New York 5 times. (ลุงฉันไปนิวหยวกห้าครั้ง และลุงก็ตุยแล้วค่ะ ลุงไม่มีโอกาสได้ไปอีกแล้ว เพราะว่าเราไม่ใส่เวลาให้ว่าเมื่อไหร่ที่ไป)​

    • My uncle has been to New York 5 times. (อันนี้ลุงยังไม่ตุยนะคะ ยังมีสิทธิที่จะไปครั้งที่ 6, 7 ได้อยู่เพราะว่า has (V1=ปัจจุบัน) ค่ะ)

Past Continuous

S + WAS/WERE + VING

Past แปลว่า อดีต Continuous แปลว่าต่อเนื่อง Past Continuous Tense คือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีต และเหตุการณ์นี้ไม่สามารถพูดเดี่ยวๆได้ มันก็เลยมาคู่กับ past simple ค่ะ โดยที่ past cont. กำลังเกิด past sim. เข้ามาแทรก

  • conjunction เชื่อมสองประโยคคือ when (เมื่อ), while/as (ขณะที่)

    • While I was driving to work, I ran over a poor dog. - ขณะที่ฉันกำลังขับรถไปทำงาน ฉันขับรถชนน้องหมาที่น่าสงสาร​

    • When I got home, my mom was cooking dinner. - ตอนที่ฉันมาถึงบ้านแม่ฉันกำลังทำอาหารเย็นอยู่

Past Perfect

S + HAD + V3

Past Perfect จะใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลง ก่อนที่จะมีอีกเหตุการณ์เกิดตามมา ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตและจบลงในอดีตเรียบร้อยแล้ว มักใช้คู่กับ Past Simple ค่ะ

เราท่องไว้เลย past per เกิดก่อน past sim เกิดหลัง

  • conjunction เชื่อมสองประโยคคือ before (ก่อน) และ after (หลัง) เช่น

    • I cleaned up after I had finsihed baking. - ฉันทำความสะอาดหลังจากฉันอบขนมเสร็จ​

    • She lost the ring that he had given to her. - หล่อนทำแหวนที่เขาให้มาหาย (เขาให้มาก่อน นางทำหายทีหลัง)

    • He decided to study Japanese after had spent some time in Tokyo. (เขาตัดสินใจเรียนภาษาญี่ปุ่น หลังจากได้ใช้เวลาอยู่ที่โตเกียว)

เราใช้ wish + past perfect สำหรับเหตุการณ์ที่เราปรารถนาให้เกิดในอดีตแต่มันมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ​

  • I wish I had seen Jackson Wang's concert last month.

Past Perfect Continuous

S + HAD + BEEN + VING

เหมือนกันกับ past perfect เลยค่ะ ต่างกันแค่ความต่อเนื่องแค่นั้นเอง เช่น

  • I had been waiting for him for 2 hours before he finally arrived. - ฉันรอเขาตั้งสองชั่วโมงก่อนที่เขาในที่สุดมาถึง

  • They had been playing football for an hour before it started to rain. - พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ฝนเริ่มตก

FUTURE TENSES - อนาคต จะมี WILL ในทุกๆ TENSE

Future Simple

S + WILL + V1

Future แปลว่า อนาคต Simple แปลว่า ธรรมดา Future Simple คือเหตุการณ์ที่จะทำในอนาคต (แต่ก็ไม่แน่นอนนะ)

  • พูดเมื่อคิดว่า เชื่อว่า หรือ น่าจะ เกิดบางสิ่งขึ้นในอนาคต โดยมีคำให้สังเกตคือ I think, I hope, probably, possibly, doubt เป็นต้น เช่น
    •  I think the train will come soon. (ฉันคิดว่ารถไฟจะมาในไม่ช้านี้แหละ) ​

  • ใช้กับการสัญญาหรือเสนอการช่วยเหลือ

    • I promise I will love you forever. (ฉันสัญญาว่าจะรักเธอตลอดไป แหวะ)​

  • ใช้พูดเมื่อตัดสินใจจะทำเดี๋ยวนั้น

    • I will go now. (ฉันจะไปแล้วนะ)​

ถ้าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนและได้วางแผนไว้แล้วเราจะใช้ to be + going to + V1 เช่น

  • He is going to buy a new car soon. (เขากำลังจะซื้อรถใหม่เร็ว ๆ นี้) 

  • I’m going to Japan next year. (ปีหน้าฉันจะไปญี่ปุ่น) 

พูดถึงสิ่งที่ค่อนข้างแน่ใจว่าจะเกิดขึ้น เช่น 

  •    I feel awful; I’m going to be sick.
       (ฉันรู้สึกแย่มาก ฉันกำลังจะอ้วก) 

  • It's 8.30! You're going to miss your train! (แปดโมงครึ่งแล้ว! เธอกำลังจะตกรถไฟนะ!)

Future Continuous

S + WILL + BE + VING

Future Continuous คือเหตุการณ์ที่กำลังจะทำในช่วงเลาที่กล่าวถึงอย่างเจาะจงในอนาคต

เช่น

  • Don't call me tonight, I will be having dinner with someone (special). - คืนนี้ฉันจะกำลังดินเนอร์กับผู้ชายอยู่อย่าโทรหาฉันนะ

  • This time next week I will be lying on the beach and drinking fresh coconut juice. - เวลานี้อาทิตย์หน้าฉันจะกำลังนอนอยู่บนชายหาดจิบน้ำมะพร้าวสดๆ

Future Perfect

S + WILL + HAVE + V3

Future Perfect ใช้คู่กับ present simple โดย future perfect คือเหตุการณ์ที่เกิดจากอดีต ป่านปัจจุบัน จนไปจบที่อนาคต และจุดที่จบในอนาคตอาจจะเป็นจุดของเวลา by October next year, .... หรือเป็น by the time + present simple เช่น​

  • เรานัดกันกินข้าวกับเจนแล้วเราก็นั่งรอสั่งอาหารมากินเล่นรอ นางเจนก็ยังไม่มาซะกะที เราก็เลยพูดว่า 

    • By the time Jane arrives, I will have eaten all the food.​

  • หรือเคยมั้ยคะหยิบหนังสือบางเล่มมาอ่านแล้วมันสนุกมาก เราก็คิดว่าคงจะอ่านจบในไม่กี่วัน

    • I will have finished this book by Monday. / [in a couple of days]​

  • หรือเวลาที่เรานับวันครบรอบต่างๆ เช่น วันที่ 1 ตุลาคมเราก็จะคบกับเป็นเวลา 5 ปีแล้วสินะ

    • On October 1st, we will have been together for 5 years.​

Future Perfect Continuous

S + WILL + HAVE + BEEN + VING

เหมือนกันกับ future perfect เลยค่ะ ต่างกันแค่ความต่อเนื่องแค่นั้นเอง เช่น

  • This November, I will have been working at this company for three years. - เดือนพฤศจิกายนนี้ฉันจะได้ทำงานที่นี่เป็นเวลาสามปี

  • By the time you arrive, the concert will have been playing for 30 minutes. - กว่าคุณจะมาถึงคอนเสริ์ตคงจะเล่นเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว

tenses

คู่ tenses ที่ชอบใช้สับสน

past simple vs present perfect
past sim vs past con - past sim vs past perfect
Present perfect vs present per con
Future con, perfect vs present sim

Online Exercise - แบบฝึกหัดออนไลน์

Tenses

Verbs

If Clause

All Exercises

bottom of page